Calibration-Prawet.Com

สอบเทียบเครื่องมือช่าง ที่ไหนดี ประเวช

ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับอุปกรณ์ช่างไม้ ท่านควรที่จะต้องเข้าใจก่อนว่าเครื่องมือพื้นฐานสำหรับการเริ่มต้นทำงานไม้ทุกชนิดนั้นมีความเชื่อมโยงกับเครื่องมือช่างในสายงานอื่น ๆ ด้วย ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในลักษณะงานที่จะเฉพาะเจาะจงลงไปและสำหรับเครื่องมือช่างที่ควรจะมีไว้สำหรับใช้ในงานไม้นั้นเครื่องมือแบบไหนที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งานรวมไปถึงเครื่องมือประเภทไหนที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจน ซึ่งงานไม้เป็นงานที่มีความละเอียดอ่อน และในวันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องมือที่ช่างไม้ที่จะเป็นตัวช่วยในการทำงานเบื้องต้น ดังนี้

เครื่องมือช่าง ที่ต้องมีสำหรับทำงานไม้

1.กบไสไม้

กบไสไม้ ถือเป็นเครื่องมือสำหรับงานไม้โดยเฉพาะ เพื่อใช้ในการขัดผิวไม้ให้เรียบตรงและได้ฉาก หรือปรับหน้าไม้ให้ได้ตรงตามที่คุณกำหนด และจะได้รูปทรงตามความต้องการ ในปัจจุบัน กบไสไม้ได้มีการพัฒนาโดยอาศัยเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้คุณใช้งานได้สะดวกและง่ายสำหรับผู้ที่มีทักษะในการไสไม้อยู่แล้ว

2.ชุดสิ่ว

สิ่วมีหลากหลายชนิด เช่น สิ่วปากบางหรือสิ่วแต่ง นอกจากนี้ยังใช้สำหรับตกแต่งขูดผิวไม้หรือปากไม้ให้เรียบ และให้ได้รูร่องตามที่ต้องการ โดยสิ่วจะประกอบด้วยใบและด้าม ใบสิ่วทำจากเหล็กกล้ามีรูปทรงแบนและมีความบางที่ปลายคม ใบสิ่วที่มีคุณภาพจะคมกริบและไม่บิ่นง่าย โดยวิธีใช้งานจะใช้คมสิ่วกดลงไปในเนื้อไม้ จากนั้นให้คุณตอกหรือใช้แรงขูด และบังคับสิ่วไปในทิศทางที่คุณต้องการ การใช้งานในบางครั้งคุณควรใช้ค้อนช่วยในการตอก เพื่อให้สิ่วกินเนื้อไม้เล็กน้อย หลังจากนั้นคุณค่อยตกแต่งร่องรูตามที่ต้องการ

3.เลื่อยมือ

เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานอีกอย่างหนึ่ง ที่ใช้ตัดหรือซอยชิ้นงานไม้ให้ได้ขนาดตามต้องการ เลื่อยมือในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายชนิด แต่มีเลื่อยที่เหมาะสำหรับงานไม้ที่เราจะแนะนำมีอยู่ 3 ประเภทคือ เลื่อยลันดา โดยฟันของเลื่อยลันดา จะเป็นชนิดสำหรับในการตัดไม้โดยเฉพาะ เลื่อยฉลุ เป็นเลื่อยขนาดเล็ก ถูกออกแบบให้สะดวกในการบังคับทิศทางของใบเลื่อย เลื่อยลอ ใช้ใบเลื่อยแทรกในระหว่างปากไม้ เพื่อปรับปากไม้ให้เข้ากันได้สนิทนั่นเอง

4.ค้อนงานไม้

ค้อนหงอนเป็นเครื่องมือสำหรับตอก ตีตะปู อีกด้านจะมีหงอนไว้ถอนตะปูหรืองัด จึงนิยมมาใช้กับงานไม้ โดยค้อนอาจมีการออกแบบให้มีรูปร่างเหมาะสมกับงานช่างเฉพาะด้าน แต่มีโครงสร้างพื้นฐานเหมือนกัน คือ ด้ามจับและหัวค้อน เนื่องจากหัวค้อนทำจากโลหะทั้งอัน เพื่อให้เกิดแรงกระทบที่ตรงเป้าหมาย และสะดวกต่อการใช้งาน

5.สว่านเจาะ

เลือกใช้สว่าน และดอกสว่านให้เหมาะสมกับงานไม้ ที่สำคัญต้องคำนึงถึงไม้ที่คุณกำลังจะเจาะด้วย เพื่อที่ไม่จะไม่แตกร้าว และเสียหายต่องานที่คุณทำได้ เราแนะนำลักษณะปลายดอกจะคล้ายหางปลา เป็นดอกว่านที่ใช้สำหรับเจาะไม้ที่มีขนาดไม่กว้างนัก โดยขนาดที่นิยมใช้กันทั่วไปก็คือ ขนาด 5 6 8 หรือ 10 มิลลิเมตร เช่นใช้เจาะรูเพื่อใส่บานพับเหล็กบนประตู หน้าต่าง หรือเจาะรูเพื่อร้อยสายไฟต่าง ๆ

6.อุปกรณ์ลับคม

การลับคมบนหินน้ำ คือสิ่งที่คุณต้องการหากคุณใช้เครื่องมือช่างอย่างเป็นประจำ จึงเป็นอุปกรณ์สำคัญมาก ๆ การลับมีดกับหินที่ดี ยกตัวอย่างช่างไม้ก็เช่นกัน สิ่วคม ช่วยได้เยอะมาก เพราะไม้บ้านเราแข็งมาก ไสไม้ไปไม่เกิน 10 นาทีต้องลับอีกแล้ว ถ้าเกิดไม่ลับคมละก็ เวลาใช้งานต่อไม่ได้ มันจะฝืด ไสไม้เหนื่อยกว่าเดิมนั่นเอง วิธีนี้เหมาะสำหรับทั้งมีด และเครื่องมือช่างของคุณ ความแข็งของเหล็กไม่เสื่อมสภาพเนื่องจากไม่มีความร้อนเกิดขึ้น โดยธรรมชาติแล้ว หินนั้นสามารถผลิตรูปทรงของคมตัดที่ไม่ยืดหยุ่น และแม่นยำได้นั่นเอง

ช่างส่วนใหญ่เลือกเครื่องมือช่างยังไงดี

ช่วงนี้ว่าง ๆ อยากซื้ออุปกรณ์ช่างมาใช้ แต่เลือกอุปกรณ์ไม่เป็นและไม่รู้ต้องดูยังไง! คุณมาถูกที่แล้ว วันนี้เราจะมาช่วยคุณเลือกอุปกรณ์ช่างที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ มาเริ่มกันเลย

อย่างแรกที่คุณควรคำนึงถึงคือ คุณต้องการจะนำไปใช้กับอะไร เช่น ถ้าคุณอยากทำชั้นวางของ คุณต้องมีค้อน ไขควง เป็นต้น ซึ่งเราจะเลือกดูยังไงก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพและจุดประสงค์ดังนี้

เลือกตามจุดประสงค์การใช้งาน

บางครั้งอุปกรณ์ช่างก็มีเยอะมากจนหลาย ๆ คนเลือกไม่ถูก ไหนจะประเภทการใช้งาน ขนาดบ้างหละ คุณอาจจะคิดว่าบางอันคล้ายกันก็หยิบมาใช้แทนกันได้ นั่นเป็นเรื่องที่ผิดมากเพราะจะทำให้อุปกรณ์เสื่อมเร็วเพราะใช้งานไม่ถูกประเภท ดังนั้นตัดใจซื้อให้ครบและใช้ให้ถูกประเภทจะดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องใช้กับงานที่ละเอียด ๆ อุปกรณ์ที่อาจจะดูเหมือนกันแต่ก็มีความละเอียดต่างกันอยู่ ดังนั่นจึงควรหาข้อมูลเบื้องต้นหรือถามพนักงานในร้านค้านั้น ๆ เลยจะดีกว่า

เลือกที่คุณภาพ

ใครๆก็คงไม่มีใครอยากจะเสียเงินซื้ออุปกรณ์บ่อย ๆ หรอก ยิ่งเป็นของที่ในคราวจำเป็นต้องใช้ ยิ่งต้องเลือกคุณภาพที่ดีไว้ก่อน เริ่มจากการดูว่าวัสดุที่ใช้ว่าได้มาตรฐานหรือเปล่า ราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะบางอย่างใช้วัสดุเกรด B แต่ราคาแพงก็มี ถ้าอยากได้คุณภาพที่ดีควรเลือกซื้อกับร้านที่น่าเชื่อถือและดูจากรีวิวต่าง ๆ หรือของต่างประเทศเพราะจะมีคุณภาพความทนทานที่มากกว่าและควรเป็นมือหนึ่งเท่านั้น แม้มือสองจะถูกกว่าแต่อย่าลืมว่าผ่านการใช้งานมาหนักแค่ไหน ฉะนั้นเอาที่คุ้มค่าจริง ๆ ยอมเสียมากแต่ได้ของดีจะดีกว่าต้องมานั่งเปลี่ยนบ่อย ๆ นะ