Calibration-Prawet.Com

สอบเทียบเครื่องมือช่าง ที่ไหนดี ประเวช

หากจะพูดถึงเครื่องมือที่จะช่วยจับยึดชิ้นงานเพื่อทำงานใด ๆ ให้ติดกันหรือดึงชิ้นงาน นอกจากนั้นยังใช้จับ บีบ ดัด ตัด คือใช้ในงานตัดวัตถุที่ไม่แข็งแรงมากนัก เช่น สายไฟฟ้า ลวด หรือสลักล็อกขนาดเล็ก ท่านจะต้องนึกถึงคีมปากแหลม ซึ่งคีมแต่ละประเภทได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานเฉพาะทาง และมีรูปร่างกับโครงสร้างที่ต่างกันไป ตามลักษณะการใช้งาน คีมบางตัวออกแบบมาเพื่อใช้งานหลายหน้าที่ เช่น ทั้งในการจับงาน และตัดชิ้นงาน คีมบางแบบมีข้อต่อเลื่อน ที่สามารถปรับขนาดความกว้างของปากในการจับชิ้นงานได้ และวันนี้เราจะพาท่านไปทำความรู้จักกับประเภทของคีมชนิดต่าง ๆ ว่ามีอะไรบ้างและแบบใดเหมาะกับการใช้งานในแบบใดมาดูกัน

ประเภทของคีมมีกี่ประเภทที่ช่างส่วนใหญ่นิยมใช้

  1. คีมตัดข้าง (คีมปากจระเข้)

เป็นเครื่องมือช่างที่มีลักษณะการนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย ปากคีมมีคมไว้สำหรับตัดด้านข้าง และสามารถใช้จับชิ้นงานได้อยู่ภายในตัวเดียวกัน

  1. คีมปากแหลม (คีมปากจิ้งจก)

ใช้สำหรับจับโลหะแบน หรือสายไฟ ปากคีมมีลักษณะเรียวแหลม และมีขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานในที่แคบ และงานไฟฟ้า

  1. คีมปากขยาย

ปากคีมมีลักษณะโค้งมน และสามารถขยายออก หรือลดให้แคบลงได้ ลักษณะด้านใน จะทำโค้งเว้าไว้ทั้งสองข้างและมีร่องฟัน เพื่อใช้ในการจับ ด้านกลม บริเวณปลายปากจะแบนเรียบมีร่องฟัน สามารถปรับปากให้แคบ หรือขยายให้กว้างได้ด้วยสลักเกลียว ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดหมุนใช้จับงานทั่ว ๆ ไป ไม่ต้องการความละเอียด หรือความประณีตมากนัก เหมาะสำหรับจับงานร้อนและงานที่มีขนาดใหญ่ที่คีมธรรมดาไม่สามารถจับได้ หรือการใช้งานที่เกี่ยวกับเครื่องกลและงานเครื่องยนต์ประเภทต่าง ๆ

  1. คีมปากกลม

ปากด้านนอกมีลักษณะกลม ส่วนปากด้านในจะเจียระไนให้มีลักษณะแบนทั้งสองข้าง ด้ามหุ้มด้วยปลอกพลาสติกหุ้ม เหมาะสำหรับงานดัด งานที่เป็นรูห่วง หรือดัดห่วง และงานที่มีความละเอียด เช่น งานไฟฟ้า งานอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

  1. คีมปากนกแก้ว หรือ คีมตัด

เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้สำหรับงานตัดโดยเฉพาะ ปากคีมมีลักษณะคล้ายกับปากนกแก้ว ส่วนปลายของปากจะมีลักษณะเป็นคมตัดโดยหันขวางกับด้านคม ที่ด้ามจับมีฉนวนหุ้มเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ใช้สำหรับตัดเหล็ก เส้นลวด และคีมชนิดนี้ไม่สามารถจับชิ้นงานได้

  1. คีมล็อก

ใช้จับนอต หรือชิ้นงาน เพื่อป้องกันการหมุน หรือเลื่อนโดยปากปรับขยายให้กว้างได้ และล็อกให้แน่น ออกแบบเป็นพิเศษ ใช้งานเฉพาะ ปลายด้ามมีสกรูปรับ มีแบบธรรมดา แบบปากแหลม แบบใช้งานเชื่อม ใช้สำหรับจับหรือบีบชิ้นงานที่แน่นมาก บีบท่อน้ำยาแอร์

  1. คีมปอกสายไฟ

เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานต่าง ๆ เกี่ยวกับสายไฟฟ้าทำได้สะดวกขึ้น คีมชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อการปอกฉนวนไฟฟ้าที่หุ้มลวดทองแดงอยู่ โดยจะตัดเฉพาะส่วนที่เป็นฉนวนพลาสติก โดยไม่ตัดเส้นลวดทองแดง และยังใช้สำหรับการตัดสายไฟ และใช้ในการย้ำขั้วหางปลาให้ยึดติดกับปลายสายไฟฟ้าด้วย

การใช้คีมให้มีความปลอดภัยต้องใช้อย่างไร

  1. เลือกใช้คีมให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของคมชนิดนั้นๆ เช่น คีมตัดไม่เหมาะกับการใช้จับ คีมตัดสาย ไฟฟ้า

และไม่เหมาที่จะใช้ตัดแผ่นโลหะ

  1. ฟันที่ปากของคีมจับต้องไม่สึกหรอ ส่วนปากของคีมตัดต้องไม่ทื่อ
  2. การจับคีม ควรให้ด้ามคมอยู่ที่ปลายนิ้วทั้ง 4 แล้วใช้อุ้มมือและนิ้วหัวแม่มือกดด้ามคีมอีกด้านจะทำให้มี

กำลังในการจับหรือตัด

  1. การปอกสายไฟฟ้าควรใช้คมปอกสายไฟฟ้าโดยเฉพาะเพราะจะมีขนาดของรูปเท่ากับขนาดของสาย

ไฟฟ้าพอดี ส่วนการตัดสายไฟฟ้า หรือเส้นลวดที่ไม่ต้องการให้โผล่จากชิ้นงานควรใช้คีมตัดปากทแยง

  1. ไม่ควรใช้คีมตัดโลหะที่มีขนาดใหญ่หรือแข็งเกินไป แต่ให้ใช้กรรไกรแทน

6.ไม่ควรใช้คีมหรือคลายหัวนอต เพราะจะทำให้หัวนอตชำรุด

  1. ถ้าต้องจับชิ้นงานให้แน่นควรใช้คีมล็อก
  2. ถ้าชิ้นงานมีขนาดใหญ่ ควรใช้คีมปากขยาย การใช้คีมที่ปากเล็กจะไม่มีกำลังที่จะจับชิ้นงานให้แน่น เพราะ

ด้ามของคีมจะถ่างมากไป

  1. ถ้าต้องการเก็บคีมไว้นาน ควรหยอดน้ำมันที่จุดหมุนของคีม และควรมีการหยอดน้ำมันเป็นระยะ

การดูแลและบำรุงรักษาต้องทำอย่างไร

วิธีการบำรุงรักษาคีมให้มีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้นนั้น หลังการใช้งานคีมทุกครั้งควรเช็ดทำความสะอาดให้แห้งแล้วชโลมน้ำมันและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้คีมโดนน้ำหรือเก็บไว้ในที่อับชื้น เพราะจะทำให้คีมเกิดสนิมได้ง่าย ไม่ควรบีบหรือกดคีมแรงเกินไป เพราะอาจจะทำให้คีมหักได้ ไม่ควรใช้คีมในการขันสกรูหรืองัดแงะวัสดุที่มีความแข็ง เพราะจะทำให้ปากของคีมหักเสียหายได้ และที่สำคัญหมั่นตรวจสภาพฟันบริเวณปากคีมและฉนวนหุ้มด้ามจับต้องไม่ชำรุด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน